ดร.นพ.ปฐม รองปลัดกระทรวง อว. ปาฐกถาพิเศษเรื่อง “นวัตกรรมสร้างสรรค์ไทย เพื่อเป้าหมายในการพัฒนาอย่างยั่งยืน”

วว./บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด แจกฟรี! เจลล้างมือ 3,000 หลอด @รถไฟฟ้าฯ สถานีสุวรรณภูมิ
ดร.สุวิทย์ ร่วมเปิดงานฮิตาชิจัดแสดงนวัตกรรม ภายใต้แนวคิด “POWERING GOOD AND POWERING THAILAND”

(5 กุมภาพันธ์ 2563) มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ร่วมกับกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ จัดการประชุมทางวิชาการ ครั้งที่ 58 “นวัตกรรมสร้างสรรค์ไทย เพื่อเป้าหมายในการพัฒนาอย่างยั่งยืน” (Inno-creative Thailand for Sustainable Development Goals (SDGs) เพื่อส่งเสริมให้นักวิจัย นักวิชาการและคณาจารย์ได้นำเสนอผลงานวิจัย แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ประสบการณ์และความชำนาญ ระหว่างนักวิชาการสู่ความร่วมมือทางการวิจัย เปิดโอกาสให้นิสิตนักศึกษาได้แสดงผลงานทางวิชาการ ถ่ายทอดเผยแพร่สู่สาธารณชน อันนำมาซึ่งความกินดี อยู่ดี และการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน โดยมี ศ.ดร.พีระศักดิ์ ศรีนิเวศน์ อุปนายกสภามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เป็นประธานเปิดการประชุม และได้รับเกียรติจาก ดร.นพ.ปฐม สวรรค์ปัญญาเลิศ รองปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) กล่าวปาฐกถาพิเศษเรื่อง “นวัตกรรมสร้างสรรค์ไทย เพื่อเป้าหมายในการพัฒนาอย่างยั่งยืน” ณ ห้องประชุมสุธรรม อารีกุล ชั้น 1 อาคารสารนิเทศ 50 ปี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน

ดร.นพ.ปฐม รองปลัดกระทรวง อว. กล่าวว่า กระทรวง อว. มุ่งมั่นที่จะดำเนินงาน ผลักดันและส่งเสริมขีดความสามารถในการแข่งขันของคนไทย ขึ้นสู่ระดับนานาชาติอย่างยั่งยืน ประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรกรรม เรื่องของเทคโนโลยีการทำเกษตรในอนาคต จึงมีความสำคัญอย่างมาก ที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการเพาะปลูก และพัฒนาการเกษตรของไทยให้ก้าวหน้า นอกจากเรื่องของเทคโนโลยี นวัตกรรมแล้ว เรื่องของการพัฒนาคน ก็เป็นอีกสิ่งที่สำคัญ เพราะเป็นตัวแปรที่จะชี้ได้ว่า เป้าหมายต่าง ๆ ที่ตั้งไว้ จะประสบผลสำเร็จหรือไม่

          นอกจากนั้น กระทรวง อว. ยังมุ่งพัฒนาเทคโนโลยีทั้งด้านน้ำ ภัยธรรมชาติ และภูมิสารสนเทศต่าง ๆ รวมไปถึง เรื่องของ BCG Economy Model ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ก้าวไกลสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน ประเทศไทยมีจุดแข็งด้านความหลากหลายทางชีวภาพ และความหลากหลายทางวัฒนธรรมเป็นต้นทุน แต่ที่ผ่านมารูปแบบเศรษฐกิจของไทย ยังเป็นในลักษณะของการทำมากแต่ได้น้อย มูลค่าเพิ่มของสินค้าอยู่ในระดับต่ำ พึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างชาติ ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวช้า การกระจายรายได้ไม่ทั่วถึง ประเทศไทยจึงติดอยู่ในประเทศที่มีกับดักรายได้ปานกลาง

          จากนี้ไปเศรษฐกิจไทย จะสามารถเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด ด้วยนโยบายการส่งเสริมระบบเศรษฐกิจ 3 ระบบของรัฐบาล ได้แก่ เศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว หรือ BCG Economy Model โมเดลการพัฒนาเศรษฐกิจรูปแบบใหม่ ที่จะช่วยต่อยอดจุดแข็งของประเทศไทย ด้วยกลไกทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม

ทั้งนี้ การประชุมทางวิชาการ ครั้งที่ 58 นี้ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 5 – 7 กุมภาพันธ์ 2563 ณ อาคารสารนิเทศ 50 ปี อาคารอมรภูมิรัตน สถาบันค้นคว้าและพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหาร อาคารวชิรานุสรณ์ คณะเกษตร และอาคารเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบ พระชนมพรรษา คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน

 1,570 total views,  1 views today

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องที่ต้องการถูกทำเครื่องหมาย *